ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ทำไมจึงเลือกสวดบทนี้ ?
ธัมมจักกัปปวัตนสูตร เปรียบเสมือน หัวใจแห่งการนำธรรมะไปสู่ใจชาวโลก ถือเป็นแม่บทแห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพราะเป็นแนวทางที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติจนเห็นผลได้จริง...
ทำไมต้องสวดบทธัมมจักกัปปสูตร ?
การสวดมนต์ หรือ Mantra Meditation นั้นเป็นวิธีการทำสมาธิอย่างง่ายๆวิธีหนึ่ง
ที่นิยมทั่วไปของทุกศาสนา ด้วยการท่องบทสวดใดบทสวดหนึ่งให้ดังพอที่จะได้ยินเสียงของตัวเอง
และใจต้องจดจ่ออยู่กับบทสวดและเสียงสวดมนต์นั้น เมื่อใจของเราจดจ่ออยู่กับเสียงที่สวดออกมา ความฟุ้งซ่านย่อมเบาบางลงจนกระทั่งหมดไป ใจจึงเกิดเป็นสมาธิ
เสียงที่เปล่งออกมาจากการสวดมนต์
เป็นคลื่นเสียงที่เป็นคลื่นบวก
สามารถไปกระตุ้นการทำงานของต่อมต่างๆในร่างกายและสมองให้ทำงานดีขึ้น จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ดีให้มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นคลื่นจากเสียงสวดมนต์จึงเป็นคลื่นที่สามารถบำบัด
และฟื้นฟูการทำงานของร่างกายและสภาพจิตใจให้ดีขึ้นได้ทั้งต่อตัวผู้สวดเอง
และผู้ฟัง เพราะคลื่นเสียงเป็นคลื่นไฟฟ้าที่เซลล์สมองของคนเราสามารถรับ-ส่งข้อมูลถึงกันได้ ยิ่งหากผู้สวดมีสมาธิในการสวดมากเท่าไหร่
คลื่นเสียงที่ออกมาก็ยิ่งมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ บทสวดต่างๆ ในพระพุทธศาสนา
ยังเป็นการกล่าวถึงแต่สิ่งที่ดีงาม และคุณธรรมความดี ดังนั้นเมื่อเราได้สวดและฟังบ่อยๆ จิตใจก็ยิ่งเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น เมื่อใจได้ฟังแต่สิ่งที่เป็นคุณความดี ใจจึงถูกชำระล้างให้สะอาดบริสุทธิ์ไปในตัว การสวดมนต์จึงเป็นการทำให้ใจถูกยกระดับให้มีความบริสุทธิ์มากขึ้นได้เช่นเดียวกับการทำสมาธิ
เราจึงมักได้รับคำแนะนำจากพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแนะนำอยู่เสมอว่า
“เมื่อใดที่พบความทุกข์
และอุปสรรคในชีวิต
จงหมั่นสวดมนต์และภาวนาอยู่เสมอ
บุญนี้จะช่วยให้ปัญหาทุกอย่างค่อยๆคลี่คลายไปได้”
เพราะกระแสหรือคลื่นไฟฟ้าที่เกิดจากการสวดมนต์ หรือทำสมาธิ
จากใจที่บริสุทธิ์เป็นพลังงานที่เหมือนกัน
เรียกว่า “บุญ” ยิ่งใจมีความสะอาดบริสุทธิ์มากเท่าไหร่ บุญก็ยิ่งก่อเกิดมากขึ้นเท่านั้น และบุญนี้เองที่มีอานุภาพอย่างไม่มีประมาณ สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ จากร้ายให้กลายเป็นดี รวมทั้งยังสามารถดึงดูดสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นได้
ภาพจาก : pixabay |
การสวดมนต์ จึงเป็นวิธีสร้างบุญที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่จิตใจยังมีความฟุ้งซ่าน มีความเครียดความกดดันมาก หรือผู้ที่ยังไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อน หรือไม่สามารถนั่งสมาธิได้นานๆ การสวดมนต์จะเป็นการช่วยปรับพื้นฐานของใจให้สงบ และมีความบริสุทธิ์ในระดับต้นเพื่อยกระดับไปสู่การทำสมาธิ หรือการปฏิบัติธรรมในระดับต่อไปได้
ทั้งการสวดมนต์และการทำสมาธิ จึงเป็นสองสิ่งที่ควรทำควบคู่กันไป
เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมในการชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ได้ดี ดังคำที่กล่าวไว้ว่า
“สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน”
และด้วย “บุญ” เป็นพลังงานคลื่นไฟฟ้าที่เดินทางได้ไกล เซลล์สมองของมนุษย์สามารถรับส่งถึงกันได้นี่เอง เมื่อเราปรารถนาจะส่งกระแสแห่งบุญนี้ไปสู่ผู้ใด แม้คนผู้นั้นจะอยู่ห่างไกลคนละซีกโลก กระแสบุญจะเดินทางไปในรูปของคลื่นไฟฟ้าไปสู่ตัวผู้รับได้ในที่สุด
จะสังเกตได้ว่าเมื่อบุคคลในครอบครัวเจ็บป่วยหรือตกอยู่ในความยากลำบาก
พระภิกษุสงฆ์ท่านมักจะแนะนำให้เราสวดมนต์ ทำสมาธิ
และแผ่เมตตาไปให้แก่บุคคลเหล่านั้น
กระแสบุญจะมากหรือน้อย และจะส่งถึงผู้รับได้มากเพียงใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของใจของทั้งตัวผู้รับและผู้ให้ เหมือนการเปิด-ปิดสวิตช์ไฟ หากตัวเปิด-ปิดสวิตช์ไฟเสีย
ก็ไม่สามารถรับสัญญาณไฟฟ้าที่ถูกส่งออกมาจากแหล่งกำเนิดได้ เช่นเดียวกัน หากผู้ส่งหรือผู้ที่สวดมนต์ สวดด้วยใจที่เป็นสมาธิ กระแสบุญที่ถูกส่งออกไปก็ย่อมเร็วแรง มีอานุภาพมาก
และหากผู้รับดำรงตนตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมด้วยแล้ว ก็เปรียบเสมือนการเปิดสวิตช์ไฟไว้รอรับกระแสไฟฟ้าที่ส่งมาให้ได้ตลอด
ยิ่งหากต่างฝ่ายต่างหมั่นชำระล้างใจให้สะอาด บริสุทธิ์อยู่เสมอด้วยการดำรงตนตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมแล้วก็เหมือนกับการหมั่นดูแลรักษา ทำความสะอาดอุปกรณ์รับส่งสัญญาณให้มีคุณภาพที่ดีพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา
และเนื่องจากการสวดมนต์เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย เหมาะสมกับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับ
ดังนั้นหากทุกคนบนโลกใบนี้พร้อมใจกันสวดมนต์โดยตั้งความปรารถนาเดียวกันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้เกิดสันติภาพ ก็ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
ภาพจาก : เพจ ภาพดีๆ072 |
ทำไมจึงต้องสวดบทธัมมจักร ?
บทสวดมนต์ในพระพุทธศาสนาโดยทั่วไป
แม้จะมีสาระสำคัญที่แตกต่างกัน
แต่ก็มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคุณงามความดี เมื่อได้ยินได้ฟังแล้วมักทำให้จิตใจสงบ ทั้งนี้การจะเลือกสวดบทไหน ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของตัวผู้สวดเอง เช่น
บทสวดโพชฌังคปริตร สวดเพื่อบําบัดและรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
บทสวดพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากาฯ) สวดเพื่อทำให้มีจิตใจเข้มแข็ง สามารถเอาชนะอุปสรรคและภยันตรายต่างๆ
สำหรับบทสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร
เป็นบทที่กล่าวถึงการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมเพื่อดำรงตนให้อยู่ในเส้นทางแห่งความดี ไม่ปฏิบัติย่อหย่อนหรือตึงเกินไป
แต่ให้ปฏิบัติตนตามทางสายกลางคือ มัชฌิมาปฏิปทา
โดยหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตนอย่างสุดโต่ง 2 ประการ คือ
1. กามสุขัลลิกานุโยค ไม่ให้ยึดติดหรือหมกหมุ่นความสุขที่เกิดจากกามคุณทั้ง
5 อันได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
2. อัตตกิลมถานุโยค ไม่ปฏิบัติตัวเคร่งเครียด ทำความลำบากเดือดร้อน
ทรมานร่างกายตนเองอย่างไร้ประโยชน์
ซึ่งข้อปฏิบัติตามทางสายกลาง
หรือมัชฌิมาปฏิปทานี้
เป็นการปฏิบัติตนตามหลักมรรคมีองค์ 8
เพื่อละกิเลสที่อยู่ภายในจิตใจของมนุษย์อย่างเป็นลำดับขั้นตอน จนกระทั่งสภาพใจมีความใส สะอาดบริสุทธิ์มากพอในระดับที่สามารถรู้เห็นอริยสัจ
4 คือรู้เห็นตามความเป็นจริงของทุกข์
สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
วิธีการและแนวทางปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ซึ่งหลักการปฏิบัติตามแนวทางนี้เองที่ทำให้พระพุทธองค์บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ดังนั้นหากใครนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ด้วยใจที่มุ่งมั่น ก็สามารถทำให้ขจัดกิเลสให้หมดสิ้นไปตามลำดับ จนกระทั่งหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏได้
แม้แต่หากใครต้องการประสบความสำเร็จทางโลก ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่เกิดจากการสวดด้วยใจที่เป็นสมาธิ ก็สามารถดลบันดาลให้ชีวิตสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง
บุญจะดึงดูดสิ่งดีๆ คนดีๆให้เข้ามาสู่ชีวิตตามกำลังบุญของแต่ละบุคคล
ภาพจาก : dmc.tv |
นอกจากนี้ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ยังเป็นปฐมเทศนา หรือพระธรรมเทศนาบทแรกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง
5 ในวันอาสาฬหบูชา จนกระทั่งท่านโกญทัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุพระโสดาบัน
และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์รูปแรกในพระพุทธศาสนา ทำให้พระพุทธศาสนามีพระรัตนตรัยครบองค์
3 ประการ คือ พระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์
ด้วยเหตุที่หลักธรรมที่กล่าวถึงใน
ธัมมจักกัปปวัตนสูตร
เป็นการรวมสาระสำคัญที่กล่าวถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์ รวมถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ดังจะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 45
ปีแห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ในโอกาสต่างๆ นั้น เป็นการแสดงธรรมเพื่อขยายความแต่ละหัวข้อธรรมในธัมมจักกัปปวัตนสูตร เพื่อให้เหมาะสมกับอัธยาศัยของแต่ละบุคคลทั้งสิ้น
ธัมมจักกัปปวัตนสูตร จึงเปรียบเสมือน หัวใจแห่งการนำธรรมะไปสู่ใจชาวโลก ถือเป็นแม่บทแห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพราะเป็นแนวทางที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติจนเห็นผลได้จริง ก่อให้เกิดความสุขได้ทั้งทางโลก และทางธรรม
ดังนั้น การที่เรามีวัตถุประสงค์ต้องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปสู่ใจของชาวโลก สิ่งที่เป็นหลักสำคัญนอกจากการเผยแพร่หลักธรรมคำสอนแล้ว ยังต้องมีการอธิบาย ขยายความหัวข้อธรรมต่างๆ รวมถึงหลักการปฏิบัตินั้นให้เข้าใจง่าย และเหมาะสมกับอัธยาศัยของแต่ละบุคคลอีกด้วย
ภาพจาก : vstar news |
นี่จึงเป็นเหตุผลที่สำคัญว่า เพราะเหตุใดเราจึงเลือกสวดบทธัมมจักกัปปวัตนสูตร เพราะนอกจากสาระสำคัญในบทสวดแล้ว หากพุทธบริษัททั้ง 4 รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน มีเป้าหมายต้องการขยายพระพุทธศาสนาไปสู่ใจคนทั้งโลกเหมือนกันแล้ว การชักชวนกันมาสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร แม้จะยังไม่ทราบความหมาย แต่การสวดบ่อยๆ เป็นประจำ ก็เหมือนกับการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ สารอาหารที่เราทานจะเข้าไปสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ แต่รับรู้ได้จากการที่เรามีสุขภาพกายที่สมบูรณ์ การสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร ก็เช่นเดียวกัน การสวดบ่อยๆ ย่อมช่วยชำระล้างจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ทีละเล็กทีละน้อยโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่รับรู้ได้จากความรู้สึกที่ใจมีความสุขเพิ่มมากขึ้น ชีวิตดีขึ้น จากคนใจร้อนก็กลายเป็นคนใจเย็น
และยิ่งหากร่วมกันสวดหลายๆคน จากหลักร้อย เป็นหลักพัน จนเป็นหลักล้าน เมื่อสวดบ่อยๆ กระแสแห่งความบริสุทธิ์ กระแสแห่งบุญย่อมขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยอานุภาพของบุญที่มากมายมหาศาลนี่เองที่เป็นพลังงานสามารถดึงดูดใจให้ผู้อื่นที่พบเห็นเริ่มมีความสนใจ อยากศึกษา
และลองปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนา
ดังนั้น เมื่อคนหลายล้านคนทั่วโลกพร้อมใจกันสวดด้วยใจที่บริสุทธิ์และเป็นสมาธิ จนพบความสุขด้วยตัวเองแล้ว กระแสแห่งบุญนี้ย่อมมีอานุภาพมากมายมหาศาล จนแผ่ขยายกว้างออกไปทั่วทุกมุมโลก และด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้เองย่อมสร้างความอัศจรรย์ให้เกิดสันติภาพโลกได้อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น