เมื่อโซเชียล คือภัยร้ายที่คุกคาม !!!


  ปัจจุบันนี้โลกเราเป็นกระแสของสังคมโซเชียล  การสื่อสารทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ข่าวบางข่าว  ข้อความบางข้อความสามารถแพร่กระจายไปสู่คนอื่นๆได้อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่คนรอบตัว หรือคนในประเทศเราเท่านั้น แต่ยังสามารถกระจายไปสู่คนทั่วโลกได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที    ด้วยเหตุนี้การสื่อสารบนโลกออนไลน์จึงมีทั้งด้านดีและความน่ากลัวที่แฝงมาพร้อมๆกัน



  หนึ่งในภัยร้ายที่ปรากฏ คือ การกลั่นแกล้ง หรือคุกคามบุคคลอื่นผ่านทางโลกออนไลน์  ที่เรียกว่า Cyberbullying ซึ่งเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือคุกคามบุคคลอื่นผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยวิธีการซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยการไตร่ตรองไว้แล้วของตัวผู้กระทำ ซึ่งกระทำได้ด้วยการปล่อยข่าวลือ หรือเผยแพร่เนื้อหา คลิปวีดีโอ เพื่อทำลายชื่อเสียงหรือทำให้เกิดความอับอายขายหน้าของบุคคลอื่นบนอินเทอร์เน็ต  ซึ่งถือเป็นการคุกคามที่เริ่มพบเห็นมากขึ้นในปัจจุบัน     ผลร้ายแรงที่สุดที่ปรากฏคือ มีผู้ตกเป็นเหยื่อที่รู้สึกอับอายจนถึงขั้นฆ่าตัวตายไปแล้ว 

  การกระทำเช่นนี้มีวัตถุประสงค์หลักๆ คือ เป็นการแบล็คเมล์  หรือพยายามที่จะทำให้ผู้อื่นรู้สึกอับอาย  จนไม่มีที่ยืนในสังคม  ทำให้บางคนอาจสูญเสียอนาคตและชื่อเสียงไปทั้งชีวิต  

photo : pixabay

  “Cyberbullying”  ที่นอกเหนือจากการแบล็คเมล์ผู้อื่นด้วยการนำข้อมูลลับออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้ว  โดยส่วนใหญ่ยังเป็นการกระทำที่เข้าข่าย มุสาวาททางกาย  คือการกล่าวโกหกด้วยวิธีการเขียนเรื่องหรือข้อความที่ไม่เป็นความจริง  ซึ่งคนที่เขียนถือว่ามีเจตนา(ความตั้งใจ) และความพยายามที่จะเขียนเพื่อให้คนอ่านเกิดความเข้าใจอย่างที่ตัวเองต้องการ  ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ครบองค์แห่งมุสาวาททั้ง 4 ประการ คือ

1. เรื่องที่พูด / เขียน ไม่เป็นความจริง
2. ตั้งใจพูด / เขียน ให้ผิดไปจากความจริง
3. มีความพยายามพูด / เขียน ให้ผิดไปจากความจริง
4. ผู้ฟัง / ผู้อ่าน เข้าใจเนื้อความนั้น

photo : pixabay



  โลกโซเชียล จึงเป็นเสมือนดาบสองคมที่มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ ที่สามารถสร้างและทำลายชื่อเสียงของบุคคลอื่นได้ในชั่วพริบตา  ดังนั้นการรับข้อมูลใดๆ ทางโซเชียลไม่ว่าจะเป็นข่าว ข้อความ บทความต่างๆ ควรพิจารณาไตร่ตรองก่อนที่จะเชื่อ

  โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่น ทั้งที่เรายังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริง  ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง  หรือแม้แต่เรื่องทางกฎหมาย  เรื่องทางศาสนา  ไม่ว่าจะเป็นคำสอน  หรือการปกครองในระดับต่างๆ  พึงให้ระวังเรื่องการใช้คำพูด หรือข้อความที่เขียน  อย่าพูดหรือเขียนแบบคะนองปากเพียงเพื่อต้องการเกาะกระแส  ต้องการยอดไลค์  หรือต้องการสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์เท่านั้น  ยิ่งหากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีศีล หรือผู้ที่ไม่คิดร้ายตอบด้วยแล้ว  การใช้คำว่าร้าย จาบจ้วง ด้วยความไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง หรือยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าท่านได้กระทำผิดจริงหรือไม่  ผลที่สะท้อนกลับมานั้นอาจน่ากลัวกว่าที่เราคาดคิด

photo : pixabay



 การรับโทษใดๆทางกฎหมาย ก็ยังไม่สาหัสสากรรจ์เท่ากับการรับโทษจากกฎแห่งกรรม

  วิบากกรรมจาก “คำพูด” จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย  แต่สามารถส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงทั้งต่อตัวผู้กระทำ  และผู้ถูกกระทำ  ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นไม่เพียงแต่ในชาตินี้   แต่ยังก่อตัวกลายเป็นวิบากกรรมติดตามเราไปถึงชาติหน้า



-----------------------------------------

บทความโดย : เดอะซัน  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประวัติการก่อพระเจดีย์ทราย

คนแบบไหนที่เราควรอยู่ใกล้ๆ

ชนะได้.. แต่ไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้ง !!